เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีเสน่ห์ที่เรียบง่ายและมิตรภาพแน่นแฟ้นแห่งสัมพันธ์ไทย-มอญ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล อยากสัมผัสชีวิตแบบหมุนช้า ต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนซักครั้งในชีวิต
สังขละบุรี...เป็นเมืองริมขอบชายแดนไทยพม่า มีวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย , มอญ , พม่า ฯลฯ เป็นเมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "สามประสบ" คือจุดที่ลำน้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน ได้แก่ แม่น้ำรันตี , แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำซองกาเลีย
มีสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ไม่ควรพลาดชม เช่น
สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) เป็นสะพานไม้ซึ่งสร้างจากแรงศรัทธาแห่งพระพุทธศาสนาทั้งเชื้อชาติไทยและมอญ นับเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตะมะ) สร้างด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านหลายเชื้อชาติที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ พระสงฆ์รูปสำคัญเป็นนักพัฒนาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสังขละบุรี
เจดีย์พุทธคยา สร้างจำลองขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธากระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตุ
เมืองบาดาล ในอดีตเป็นวัดวังก์วิเวการาม ในปี 2527 มีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลมทำให้น้ำท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย หลวงพ่ออุตตะมะจึงได้ย้ายมาสร้างวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำ ใน ช่วงฤดูแล้งราวเดือนมีนาคม-เมษายน น้ำจะลดจนเห็นตัวโบสถ์โผล่พ้นน้ำสามารถนั่งเรือชมและขึ้นไปเดินชมโบสถ์ได้
ที่ตั้ง : อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
วันเวลาที่แนะนำ : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี หากมาในฤดูหนาวอากาศจะเย็นและมีโอกาสสัมผัสสายหมอกที่ลอยปกคลุมไปทั่วเมือง
การเดินทาง : ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 215 กิโลเมตร โดยจะใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ และเข้าอำเภอสังขละบุรี
สังขละบุรี..... ในปัจจุบันยังจะคงมนสเน่ห์ความสวยงานอยู่อีกหรือไม่?
สังขละบุรี...เป็นเมืองริมขอบชายแดนไทยพม่า มีวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย , มอญ , พม่า ฯลฯ เป็นเมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำ ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "สามประสบ" คือจุดที่ลำน้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน ได้แก่ แม่น้ำรันตี , แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำซองกาเลีย
มีสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ไม่ควรพลาดชม เช่น
สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) เป็นสะพานไม้ซึ่งสร้างจากแรงศรัทธาแห่งพระพุทธศาสนาทั้งเชื้อชาติไทยและมอญ นับเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตะมะ) สร้างด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านหลายเชื้อชาติที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ พระสงฆ์รูปสำคัญเป็นนักพัฒนาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสังขละบุรี
เจดีย์พุทธคยา สร้างจำลองขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธากระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตุ
เมืองบาดาล ในอดีตเป็นวัดวังก์วิเวการาม ในปี 2527 มีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลมทำให้น้ำท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย หลวงพ่ออุตตะมะจึงได้ย้ายมาสร้างวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำ ใน ช่วงฤดูแล้งราวเดือนมีนาคม-เมษายน น้ำจะลดจนเห็นตัวโบสถ์โผล่พ้นน้ำสามารถนั่งเรือชมและขึ้นไปเดินชมโบสถ์ได้
ที่ตั้ง : อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
วันเวลาที่แนะนำ : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี หากมาในฤดูหนาวอากาศจะเย็นและมีโอกาสสัมผัสสายหมอกที่ลอยปกคลุมไปทั่วเมือง
การเดินทาง : ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 215 กิโลเมตร โดยจะใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ และเข้าอำเภอสังขละบุรี
สังขละบุรี..... ในปัจจุบันยังจะคงมนสเน่ห์ความสวยงานอยู่อีกหรือไม่?